วันพฤหัสบดีที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2562

ฟุตบอลทีมชาติไทย 2019



        สิ้นสุดลงไปแล้วสำหรับเส้นทางการแข่งขันของทีมฟุตบอลทีมชาตไทยในรายการเอเชียนคัพ ซึ่งในรอบ 16 ทีมสุดท้ายไทยจะต้องโคจรมาพบกับจีน รูปเกมส์ในครึ่งแรกเราสามารถสู้กับจีนได้อย่างสนุกและขึ้นนำไปก่อน จากศุภชัย ใจเด็ด ซึ่งในครึ่งแรกนั้นจีนใช้รูปแบบการโยนยาวจากแดนหลังผ่านแดนกลางไปยังแดนหน้า ส่วนไทยใช้การต่อบอลสั้นและการเข้าทำที่รวดเร็ว
        แต่พอถึงครึ่งหลังจีนที่มีกุนซื่ออย่าง มาเซโล่ ลิปปี้ ก็ได้ทำการแก้เกมส์ มาอย่างดีและสามารถพลิกเอาชนะทีมชาติไทยได้ในที่สุด ซึ่งหลังจากที่ทีมชาติไทยนั้นพ่ายแพ้ ก็เกิดกระแสวิพากวิจารษ์มากมายโดยเฉพาะกองหลังอย่างเฉลิมพงษ์ ที่หลายคนบอกว่ายังไม่ดีพอที่จะติดธง และในเกมส์นี้เขาเองก็ผิดพลาดหลายๆจุดจนส่งผลทำให้ทีมชาติไทยนั้นพ่ายแพ้ต่อทีมชาติจีน อีกคนหนึ่งที่โดนพูดถึงเป็นอย่างมากแต่เป็นในทางที่ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่นักนั้นก็คือ ชนานันท์ ที่ลงมาเป็นตัวสำรองในครึ่งหลัง แล้วลงไปช่วยเล่นเกมส์รับแต่สกัดบอลไม่เด็ดขาดทำให้ผู้เล่นจีนนั้นได้ลูกและนำพาไปสู่การเสียประตูในที่สุดนั้นเอง หลังจากจบเกมส์การแข่งขันนัดดังกล่าวทั้งโค๊ช คีย์บอร์ด และผู้เชียวชาญในโลกออนไลน์ต่างแสดงความคิดเห็นต่อนักฟุตบอลทั้งสองคนอย่างสนุกสนาน
        แต่ในมุมมองส่วนตัวแล้วคิดว่าไม่ใช่ความผิดพลาดของนักฟุตบอลเพราะการที่ได้ติดธงและร่วมรับใช้ชาตินั้นทุกคนก็ต้องแสดงความสามารถอย่างเต็มที่อยู่แล้วแต่การเกิดข้อผิดพลาดดังกล่าวมันคือเหตุสุดวิสัยเพราะเขาได้ทำเต็มความสามารถที่เขามีอยู่แล้วนั้นเอง หากจะโทษก็ต้องโทษคนที่เลือกพวกเขาไปนั้นเอง อันนี้คือมุมมองๆหนึ่ง อีกอย่างหนึ่งนั้นก็คือการแข่งขันกีฬามันก็มีแพ้มีชนะบ้างเป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งการแพ้หรือชนะในแต่ละครั้งนั้นมันก็มีปัจจัยหลายๆอย่างเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างเช่นเรื่องของระยะเวลาในนการเตรียมทีม ซึ่งหากทีมมีเวลาในการเตรียมการที่มากพอสมควรก็จะทำให้นักฟุตบอลนั้นรู้ใจกัน อย่างเช่นรู้ว่าเพื่อนจะวิ่งไปทางไหน ควรส่งลูกให้แรงขนาดไหนเพื่อนถึงจะวิ่งไล่ตามทันเป็นต้น เรื่องของแท๊กติกก็สำคัญเช่นเดียวกันต่อให้ทีมเก่งขนาดไหนหากวางแผนการเล่นไม่ดีก็ทำให้ทีมแพ้ได้เหมือนกัน ซึ่งในนัดที่ไทยแพ้จีนนี้เราแพ้ตรงแท๊กติกในครึ่งหลังที่หลังจากทีมชาติไทยขึ้นนำแล้วจีนได้มีการแก้เกมส์จากการเล่นลูกโยนยาวมาเป็นการต่อบอลเพื่อหาจังหวะเข้าทำ และไทยไม่สามารถที่จะแก้เกมส์ให้กลับมาเหนือกว่าได้จึงแพ้ไปในที่สุด อีกอย่างหนึ่งนั้นก็คือการเปลี่ยนที่ทีมไทยต้องการที่จะเปลี่ยนนักฟุตบอลที่มีใบเหลืองติดตัวออกเพราะเกรงว่าจะโดนใบแดงซึ่งคนที่ถูกเปลี่ยนออกนั้นก็คือ ศุภชัย ใจเด็ด และให้ปกรณ์ ลงมาแทน และสุกท้ายไทยก็แพ้และตกรอบ ผมคิดว่านักฟุตบอลเขาได้ทำเต็มความสามารถของเขาแล้วเราไม่ควรที่จะไปซ้ำเติมเขาอีก กีฬาก็ต้องมีแพ้มีชนะบ้างเป็นเรื่องธรรมดา แต่บทเรียนที่เราได้จากการแข่งขันต่างหากเป็นเรื่องที่สำคัญกว่าเพราะหากเรานำบทเรียนที่เราได้รับนั้นกับมาทำการแก้ไขและพัฒนาให้ดีขึ้นครั้งต่อไปเราก็จะเก่งขึ้นกว่าเดิมนั้นเอง การที่เราชนะนั้นก็ไม่ได้แปรว่าเราจะชนะตลอดไปเช่นเดียวกับการที่เราแพ้ก็ไม่ได้แปลว่าเราจะต้องแพ้ตลอดไปเช่นเดียวกันการ การแพ้บางครั้งก็เป็นสิ่งที่ดีเพราะจะทำให้เรารู้คุณค่าของชัยชนะมากยิ่งขึ้น การชนะโดยที่ไม่เคยแพ้เลยนั้นไม่ใช่ชัยชนะที่แท้จริง ทุกเรื่องในชีวิตสามารถปรับแนวคิดนี้ไปใช้ได้ไม่ใช้เฉพาะเรื่องของการแข่งขันกีฬาเพียงอย่างเดียว แต่ในชีวิตประจำวันของเราทุกๆเรื่องก็สามารถที่จะใช้แนวคิดนี้ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งมันก็จะทำให้เรานั้นมองเห็นความจริงของชีวิตได้มากขึ้นนั้นเอง  jafra thailand
        สำหรับทีมฟุตบอลทีมชาติไทยเราก็คงจะต้องตามเชียร์ตามให้กำลังใจกันต่อไปเพราะทีมชาติไทยหากเราคนไทยไม่เชียร์แล้วใครเขาจะมาเชียร์ บ่นได้ว่าได้แสดงความคิดเห็นได้ แต่การที่บางคนประกาศว่าจะเลิกเชียร์ไปเลยนั้นสำหรับผมมองว่าเป็นเรื่องที่ออกตัวแรงเกินไป และถ้าทำอย่างนั้นจริงก็คงไม่มีใครไปรั้งไว้หรอก เพราะมีคนไทยอีกมากที่พร้อมจะเชียร์ทีมชาติไทยไปตลอด

jafra thailand