วันพุธที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

พาตัวเองออกจากสิ่งแวดล้อมที่เป็นลบ



        คนเราเป็นสัตว์สังคม ดังนั้นในแต่ละวันของเรา  เราจะได้พบเจอกับผู้คนมากมาย  ซึ่งหากจะพูดกันจริงๆแล้วสิ่งที่อยู่รอบๆตัวเรา ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่มีชีวิตหรือว่าไม่มีชีวิต นั้นแหละคือสิ่งที่กำหนดความเป็นตัวเรา และความเป็นอยู่ของเรา สังเกตดูก็ได้ว่าคนรอบตัวคุณเป็นแบบไหนส่วนมากแล้วคุณก็มักจะเป็นแบบนั้น อย่างเช่นคนรอบตัวคุณชอบพูดเสียงดังคุณก็มักเป็นคนที่พูดเสียงดังด้วยเช่นกัน หากคนที่อยู่รอบตัวคุณนั้นชอบนินทาคนอื่นๆ เวลาที่คุณคุยกับคนอื่นไปซักพักคุณก็มักจะเผลอที่จะนินทาคนที่ไม่ได้อยู่ในวงสนทนานั้นด้วย  หรือว่าคนรอบตัวคุณสนใจเรื่องอะไรคุณก็มักจะสนใจด้วย  giving forward
        ทีนี้ประเด็นก็คือว่าเมื่อคุณรู้ว่าการที่คุณอยู่กับคนแบบไหนหรือว่าอยู่ในสังคมแบบไหนคุณก็มักจะเป็นคนอย่างนั้นแล้วละก็ คุณจะทำยังไงให้ชีวิตของคุณเดินไปข้างหน้าได้ วันนี้ผมจะมาแชร์สิ่งที่ผมลงมือทำแล้วก็ทำให้ชีวิตของผมนั้นเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีได้จริงๆ อันดับแรกเลยเราจะต้องมาวิเคราะห์ตัวเองก่อนว่าในหนึ่งวันเราเจอใครหรือว่าใช้เวลาไปกับใครมากที่สุด แล้วคนๆนั้นเขามีความคิดเป็นบวกหรือว่าเป็นลบ เป็นลบก็อย่างเช่น เจอหน้ากันก็บ่น ทั้งเรื่องสภาพแวดล้อมหรือเรื่องเพื่อนร่วมงาน หรือ เขาชอบคุณเรื่องที่มันไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อย่างเช่น เกมส์ หนังละคร ถ้านานทีคุยเรื่องพวกนี้บ้างเพื่อเป็นการผ่อนคลายก็คงไม่เป็นอะไรแต่หากว่าเขานั้นคุยทุกวัน คุยเป็นประจำคุยเป็นกิจวัตรแล้วละก็เราควรจัดคนประเภทนี้เอาไว้เป็นประเภทคนคิดลบครับ ซึ่งเราควรที่จะใช้เวลาหรือเจอะเจอกับเขาให้น้อยลง เพราะถ้าคุณยังไม่พอใจชีวิตของตัวเองในตอนนี้แล้วละก็ การที่คุณยังปล่อยเวลาให้ไปปฏิสัมพันธ์กับคนที่คิดในแง่ลบคุณก็ยังจะได้ผลลัพธ์แบบเดิมๆอยู่ดี  ดังนั้นควรหลีกหนีจากคนประเภทนี้หากว่าต้องทำงานร่วมกันก็ให้ติดต่อกันเฉพาะเรื่องงาน ส่วนคนที่คิดด้านบวก คือเอาโอกาสดีๆ ข้อเสนอดีๆ ความรู้ในการพัฒนาตัวเองมาเล่าให้เราฟังเราก็ยังควรที่จะคบค้าสมาคมกับเขาอยู่ต่อไป   ทีนี้หลังจากที่เรามีเวลาเพิ่มมากขึ้นเราก็เอาเวลาในส่วนนั้นไปพัฒนาตัวเองโดยการ ไปเรียนรู้กับคนที่เขาประสบกับความสำเร็จในเรื่องที่เราชอบหรืออยากประสบกับความสำเร็จบ้าง หรือถ้าไม่มีใครที่ประสบกับความสำเร็จในเรื่องที่เราอยากได้อยากเป็นที่อยู่ใกล้ตัวเราเลย เราก็อาจจะหาหนังสือในเรื่องนั้นๆมาอ่านครับ และในสมัยนี้ยิ่งดีไปกว่านั้นหากว่าเราไม่ชอบอ่านหนังสือเราก็สามารถเปิดคลิปวิดีโอใน Youtube ดูได้ครับ ลองทำดูนะครับแล้วชีวิตของคุณจะดีขึ้นมากๆ  giving forward

        #S7Content

วันพุธที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2560

ช่วงชีวิตของนักฟุตบอลอาชีพ



        ผมเคยตื่นเต้นกับรายได้ของนักฟุตบอลต่างชาติในสมัยก่อน และเดี๋ยวนี้นักฟุตบอลชาวไทยก็มีรายได้ที่เรียกได้ว่าน่าทึ่งเช่นเดียวกันบางคนมีเงินเดือนสามสี่แสนบาทต่อเดือนซึ่งมากกว่าผู้บริหารบริษัทใหญ่ๆในเมืองไทยเสียอีก  แต่เมื่อติดตามฟุตบอลไทยและข่าวคราวความเคลื่อนไหวไปนานๆก็พบว่ารายได้ที่พวกเขาได้มานั้นมันไม่ใช่ว่าจะได้กันมาง่ายๆ   สบู่โฮยอน
        เพราะหากเริ่มต้นชีวิตของนักฟุตบอลที่จะประสบความสำเร็จในอาชีพนักฟุตบอลอาชีพจริงๆแล้วละก็ต้องเริ่มต้นตั้งแต่สมัยเด็กโดยการจะต้องไปเข้าร่วมกับอคาเดมี่ฟุตบอลที่ใดที่หนึ่งซึ่งเดียวนี้สโมสรฟุตบอลในประเทศไทยนั้นเกือบทุกสโมสรมีการวางระบบของเยาวชนไว้เป็นอย่างดี โดยพวกเขาก็จะดึงเอานักเตะเยาชนที่โชว์ฟอร์มได้ดีเข้ามาอยู่ในทีมและมีรูปแบบการฝึกซ้อมที่แน่นอน และระหว่างทางนั้นก็มีนักฟุตบอลจำนวนไม่น้อยที่ต้องออกจากระบบไปเพราะว่าไม่สามารถที่จะรักษาระเบียบวินัยของตัวเองได้นั้นเอง  พอโตขึ้นมาหน่อยพอที่จะจดทะเบียนและกลายเป็นนักฟุตบอลอาชีพได้แล้วละก็ ปัจจัยอื่นๆก็จะมีผลต่อความสำเร็จในชีวิต บางคนเล่นฟุตบอลได้ดีมากและมีการคาดการณ์กันว่าจะสามารถประสบกับความสำเร็จในชีวิตนักเตะได้แต่หลังจากเริ่มการเป็นนักฟุตบอลอาชีพไปได้ไม่นานหนักก็ต้องประสบกับปัญหาอาการบาดเจ็บทำให้ต้องหยุดเล่นฟุตบอลไปเลยแบบนี้ก็มีและในปัจจุบันเห็นแบบนี้เยอะมาก คนที่ยังเป็นนักฟุตบอลที่เก่งๆที่ยังคงเล่นในปัจจุบันนั้นถือว่านอกจากการที่พวกเขานั้นเก่งแล้วพวกเขายังมีดวงด้วยที่ไม่มีปัญหาเรื่องของอาการบาดเจ็บเข้ามารบกวน  และการที่เอาเงินเดือนของนักฟุตบอลไปเปรียบเทียบกับนักธุรกิจอื่นๆที่ประสบกับความสำเร็จได้เป็นผู้บริหารในบริษัทใหญ่นั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเปรียบเทียบกันได้เพราะว่าคนที่เขาเป็นผู้บริหารบริษัทดังๆนั้นยิ่งเขาอายุเยอะขึ้นเงินเดือนที่เขาจะได้รับนั้นก็จะยิ่งมากขึ้นไปเรื่อยๆคนกว่าเขาจะเกษียรอายุราชการซึ่งบางคนนั้นหลังจากเกษียรไปแล้วก็ยังมีคนจ้างให้ทำงานต่อไปอีก เพราะว่างานบริหารนั้นไม่ต้องใช้พละกำลังจำนวนมาก และยิ่งแก่ก็เหมือนกับยิ่งผ่านประสบการณ์มาเยอะซึ่งเป็นผลดีต่อบริษัทเพราะว่าเจอปัญหาต่างๆมามากมาย  สบู่โฮยอน
        แต่นักฟุตบอลนั้นกว่าจะได้รับสัญญาอาชีพนั้นบางคนอาจจะต้องรอถึงยี่สิบกว่าปีหรือว่าถ้าใครเก่งกว่านั้นก็ได้รับสัญญานักเตะอาชีพตั้งแต่อายุยังนั้นกว่านั้นซึ่งส่วนใหญ่แล้วสัญญาฉบับแรกนั้นนักฟุตบอลมักจะยังไม่ได้รับค่าเหนื่อยที่มากสักเท่าไร่ และพออายุประมาณสามสิบปีก็เริ่มถือว่าเข้าสู่ช่วงขาลงของอาชีพนักฟุตบอลอาชีพแล้ว แล้วหลังจากนั้นหากใครมีอาชีพที่ทำต่อเกี่ยวกับฟุตบอลอยู่ก็ดีไปแต่ว่าใครที่จะต้องไปประกอบอาชีพอื่นๆนั้นก็ถือว่าต้องไปเริ่มที่จะหาความรู้กันใหม่อีกครั้งหนึ่ง

#S7content

วันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

เราสามารถเรียนรู้จากความผิดพลาดของคนอื่นได้



        หากว่าคุณกำลังตั้งใจทำอะไรสักเรื่องอยู่และคิดว่าอยากจะประสบกับความสำเร็จในเรื่องนั้นๆให้ได้ วันนี้ผมมีแนวคิดเรื่องหนึ่งที่จะมานำเสนอให้คุณนั้นได้รับรู้ถึงแม้ว่ามันจะเป็นแนวคิดง่ายๆและก็พื้นฐานมากๆแต่ว่าหลายคนก็มองข้ามที่จะทำมันไป นั้นก็คือเรื่องของการเรียนรู้ความผิดพลาดในเรื่องที่เราสนใจอยู่จากคนอื่นๆที่เขาเดินทางไปบนเส้นทางที่เราอยากจะไปมาก่อน PP Inter Solution
        ในสมัยอดีตนั้นการจะทำอะไรให้ประสบกับความสำเร็จนั้นคนที่ลงมือทำจะต้องเรียนรู้เรื่องที่ตัวเองสนใจด้วยตัวเองและก็ลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง ยกตัวอย่างเช่น เอดิสัน คนที่ผลิตหลอดไฟให้เราได้ใช้กันในทุกวันนี้นั้นก่อนที่เขาจะสามารถผลิตหลอดไฟออกมาได้เป็นผลสำเร็จแล้วละก็ เขาก็ต้องอดทนกับความล้มเหลวถึงหมื่นครั้งด้วยกัน ซึ่งก็ทำให้เกิดคำถามตามมาว่าหากเป็นคนอื่นๆที่ไม่ใช่ เอดิสัน จะทนกับความล้มเหลวขนาดนี้ได้หรือไม่ หรือว่าบางทีความจริงในยุคสมัยของเขาๆก็อาจจะไม่ได้เป็นคนๆเดียวที่กำลังค้นคิดหลอดไฟอยู่แต่ว่าคนอื่นๆที่กำลังคิดหลอดไฟอยู่แบบเดียวกันกับเขานั้นก็อาจจะล้มเลิกไปก่อนนั้นเอง แต่ว่า เอดิสัน ไม่ยอมล้มเลิกและก็ประสบกับความสำเร็จในการผลิตหลอดไฟให้พวกเราได้ใช้งานกันในที่สุด pp inter solution
        แต่ผมก็เกิดคำถามน่าคิดขึ้นมาว่าแล้วทำไหมในยุคนั้น เอดิสัน ไม่ปรึกษาหรือว่าคุยกันกับนักวิทยาศาสตร์คนอื่นๆ  อาจจะเป็นไปได้ว่าการติดต่อสื่อสารกันของคนในยุคสมัยนั้นทำได้อย่างยากลำบาก จนไม่สามารถที่จะรู้ได้เลยว่าใครกำลังทำอะไรอยู่ นั้นอาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ เอดิสัน ต้องล้มเหลวในการทดสองกว่า หนึ่งหมื่นครั้ง
        แล้วถ้าผมยิงคำถามใส่คุณว่าแล้วคุณจำเป็นจะต้องล้มเหลวเท่ากับเอดิสันไหมกว่าที่คุณจะประสบกับความสำเร็จได้ คำตอบนั้นก็คือว่าคุณไม่ต้องล้มเหลวเท่ากับเอดิสันคุณก็สามารถประสบกับความสำเร็จในชีวิตได้ เพราะโลกในยุคปัจจุบันกับโลกในยุคอดีตนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทุกวันนี้มีความรู้สำเร็จรูปต่างๆมากมายจากทั่วทั้งโลก เตรียมรอเราเอาไว้อยู่แล้วทั้งในรูปแบบของหนังสือหรือว่า คลิปวีดีโอบน youtube หน้าที่ของเราก็คือศึกษาข้อมูลเหล่านั้นเท่านั้นเอง  เพราะว่าทุกความล้มเหลวได้มีการบันทึกเอาไว้เป็นหลักฐานที่แน่นอนที่พร้อมจะให้เราได้ศึกษาแล้ว เราก็เพียงแค่ศึกษาและเรียนรู้ความล้มเหลวเหล่านั้น และคิดวิเคราะห์ว่าสมเหตุสมผลหรือไม่ ถ้าสมเหตุสมผลและก็มีโอกาสที่จะเป็นดังเขาว่าเวลาที่เราเจอเหตุการณ์ดังกล่าวเราก็สามารถที่จะนำบทเรียนเหล่านั้นมาใช้ในชีวิตของเราได้ ก็จะเป็นการย่นระยะเวลาในการทำเรื่องต่างๆให้ประสบกับความสำเร็จได้ และเราก็สามารถที่จะประสบกับความสำเร็จได้โดยใช้ระยะเวลาที่สั้นลง โดยในยุคปัจจุบันนั้นมีตัวอย่างให้เราได้เห็นอยู่เป็นประจำว่าคนที่ประสบกับความสำเร็จในโลกยุคใหม่ที่การสื่อสารไร้พรมแดนนั้นเขาใช้เวลาเพียงน้อยนิดเท่านั้นเอง

#s7content