ผมได้ยินเสียงคนรอบข้างบ่นกับโชคชะตาชีวิตของตัวเองมากมาย
ว่าทำไหมเราไม่เป็นอย่างคนนั้นบ้างเป็นอย่างคนนี้บ้าง
โทษที่ตัวเองเกิดมามีไม่เท่ากับคนอื่นเขา น้อยใจพ่อแม่น้อยใจครอบครับ โทษสวรรค์
โทษพระเจ้า โทษแหล่งที่ตัวเองเกิดต่างๆนาๆ
หากคุณเป็นคนหนึ่งในนั้นแล้วละก็วันนี้ผมมีเรื่องเล่าที่อยากจะให้คุณได้คิดตาม
ถามว่าวันนี้คุณเป็นยังไงบ้าง คุณมีอวัยวะครบ 32 ไหม ถ้าครบ
แล้วคุณลองมองรอบตัวของคุณดูสิครับว่า คนที่เขามีอวัยวะไม่ครบ 32 นั้นเขาลำบากแค่ไหน
คนที่ไม่มีขาเวลาเขาจะเดินไปไหนไกลจะทุลักทุเลแค่ไหน
ต้องอาศัยให้คนช่วยตลอดเวลา คนที่ไม่มีมือ เวลาที่เขาจะกินข้าวก็คงจะไม่สบายแน่นอน
เราโชคดีเท่าไหร่แล้วที่เรามีมือไว้ใช้หยิบจับสิ่งของและกินอาหารได้อย่างสะดวกสบาย
ในโลกใบนี้มีคนอีกมากมายที่ลำบากกว่าเรา
เราดีมากเท่าไหร่แล้วที่เกิดมาในจุดๆนี้
จุดที่พ่อแม่เรามอบให้ไม่มีอะไรดีไปกว่านี้อีกแล้ว เราดีกว่าคนอื่นอีกมากมาย
เรายังมีข้าวกินเรายังมีการศึกษา เรายังได้ไปโรงเรียน เรายังมองเห็น เรายังเดินได้
ดีเท่าไรแล้ว
เมื่อเรารู้แล้วว่าเราเกิดมาอยู่ในจุดที่ดีแล้ว
คนที่เราลำบากมากกว่าเราก็มีอีกมาก เพราะฉะนั้นอย่าโทษตัวเอง
อย่าโทษพ่อแม่อย่าโทษโชคชะตาที่ให้เราเกิดมาในจุดๆนี้เพราะเท่านี้มันก็ดีมากแล้ว
นั้นคือในกรณีที่เรารู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจว่าทำไหมเกิดมาไม่รวยเหมือนคนอื่น
ก็ให้คิดในมุมกลับกันว่าแล้วทำไหมเราไม่เกิดมาลำบากกว่านี้ถ้าเราเกิดมาลำบากกว่านี้แล้วเราจะทำยังไง
แต่ถ้าหากตอนนี้เรากำลังไร้เป้าหมายไร้จุดหมายในชีวิตแล้วละก็
อยากให้เราคิดว่าโลกใบนี้ยังมีคนที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเราอีกมากที่เขาใช้ความสามารถของตัวเอง
ในการทำมาหากินจนสามารถมีฐานะร่ำรวยได้
ทำไหม เขาถึงได้กินของดีๆ
ทำไหมเขาถึงได้ไปเที่ยวในที่ดีๆ ทำไหมเขาถึงอยากซื้ออะไรเขาก็ได้ซื้อละ
ก็เพราะว่าเขา ลำบากมากพอแล้วละซิ
ภาพที่เราเห็นที่เขาได้กินอาหารดีๆ
ได้ใช้ของดีๆ ได้ไปเที่ยวสถานที่ดีๆ นั้นคือภาพที่เขาประสบกับความสำเร็จแล้วแต่รู้หรือไม่ว่ากว่าที่เขาจะมีวันนี้ได้เขาเคยลำบากมาแล้วมากมายแค่ไหน
อาจจะเป็นเดือนเป็นปี หรือหลายปีที่เขายอมทำงานอย่างหนักและยากบาก